พิมพ์คำว่า
‘mind’
ลงบน google search engine
ไปที่ค้นรูป
ปรากฎว่า ... เกือบ ๑๐๐ เปอร์เซนต์
ของ
๑๐ หน้าแรก (page down) เป็นภาพ “สมอง”
เลยพอจะสรุปได้ไหมว่า
คนส่วนใหญ่ เข้าใจว่า
จิต
คือ สมอง หรือ มีที่อยู่ในสมอง
เพราะเข้าใจว่า
จิตคิด จิตรู้ จิตจำ และสั่งการ
วิทยาศาสตร์
บอกเราเช่นนี้ มาตลอด
บอกถึงขนาดว่า
สมองส่วนไหน รับรู้ ...
การเห็น
การได้ยิน การรับกลิ่น การรู้รส
ส่วนไหน
ทำหน้าที่ควบคุมกลไกต่างๆ ในกาย
ร้อยแปดพันเก้า
สมอง ควบคุม สั่งการ รู้ คิด
หากเป็นเช่นนั้น
...
ผู้ป่วยบางรายที่แพทย์วินิจฉัยว่า “สมองตาย”
ผู้ป่วยบางรายที่แพทย์วินิจฉัยว่า “สมองตาย”
แสดงว่าไร้ซึ่ง
จิตแล้วใช่ไหม? ไม่คิดแล้วใช่ไหม?
ไม่มี
“ผัสสะ” ของ จิต และ ธรรม แล้วใช่ไหม?
เช่นนั้นก็
บรรลุที่สุดแห่งธรรม แล้วหรือ?
และย่อมแสดงว่า
เมื่อ
“สัตว์” ตายลง สมองตายด้วย จิตดับด้วย
ไม่ก่อให้เกิด
ภพ-ชาติ ใดๆ ได้อีก
เป็นเช่นนั้นหรือ?
ใครจะว่าอย่างไร
... ผม ไม่เชื่อ ผมว่า ไม่ใช่
จากการศึกษาพุทธธรรม
ผมขอยืนยันว่า ...
“รูป”
(รวมสมองด้วยนี่แหละ) เป็นธรรมชาติที่ ...
แตกสลาย
และ “ไม่สามารถ รู้ อารมณ์ใดๆ” ได้เลย
ขออภัย
... ไม่ได้ขอให้เชื่อตาม นะครับ
ทุกท่าน
ย่อมถือ กาลามสูตร – หลักควรเชื่อหรือไม่
ผมเพียงขอ
ให้อ่านต่อ แล้วคิดตามเอง ครับ
พระพุทธองค์
ทรงตรัสไว้ มีใน ธรรมบท
“...
ทูรงฺคมํ เอกจรํ ‘อสรีรํ’ คุหาสยํ...”
ท่องไปได้ไกล
ไปเพียงเดียวดาย
‘ไร้ซึ่งรูปร่าง’ อยู่ในกายนี้ ...
และตรัสต่อ
ในบทเดียวกันนี้ ...
“...เย
จิตฺตํ สญฺญเมสฺสนฺติ โมกฺขนฺติ มารพนฺธนา...”
ผู้ที่ควบคุมจิตได้
จะพ้นจากบ่วงแห่งมาร
นี่คือ
“จิต” ... "อสรีรัง" ... ไร้ซึ่งรูปร่าง ...
ใยพระองค์ท่าน
ตรัสว่า “ให้ควบคุม” มันให้ดี?
เคยตั้งปุจฉาถามเพื่อน
“จิต” มีลักษณะอย่างไร?
คำตอบ
เป็น “ดวง” กลมๆ น่ะซี ... เป็นเช่นนั้นหรือ?
เฮ้ย
... ไอ้ “ดวง” นั่นน่ะ มันใช้เป็น “ลักษณะนาม”
เขาเอาไว้ใช้เรียก
หรือ นับ ๑ ดวง ๒ ดวง
จิตมันไม่มีรูปร่าง
ลักษณะ
เอ้า
... ถ้าลองใช้ลักษณะนาม
เป็น
“แผ่น” เป็น “แท่ง” เป็น “อัน” บ้างล่ะ.. เช่น
จิตหลง
๒ แผ่น จิตโลภ ๘ แท่ง จิตโกรธ ๒ อัน
มันจะพิลึก
ไหมล่ะ ...
เขาก็เลย
“บัญญัติ” ว่า งั้นเอาเป็น “ดวง” แล้วกัน
เพราะภาษาไทย
มันต้องมีกำหนด ลักษณะนาม
ก็เลยมีหลายสำนัก
บอกให้ดู “ดวงจิต” กลมๆ
ลอย
อยู่ตามที่ต่างๆ ใน-นอก กายนี้
(ท่านสาธุชน
ของสำนักทั้งหลาย อย่าเพิ่งโกรธ
นะครับ ... ผมเพียงขอ ให้พิจารณาตามก่อน)
น่าแปลกไหมล่ะ
ชีวิต “สัตว์” ทุกชีวิต ทั้งชีวิต
นับแต่
ปฏิสนธิ จน จุติ
“จิต” (ร่วมกับเจตสิก)
“จิต” (ร่วมกับเจตสิก)
มัน
“บงการ” ตลอด มันจัดสรร มันคิด มันจำ
มันรู้
มันปรุงแต่ง ... และที่สำคัญ
“สัตว์”
เหล่านี้แหละ ยอมตกเป็นทาสของมัน
ปล่อยไหลตามที่มัน
พาหลง พาโกรธ พาโลภ
ถ้ามัน
“มีตัวตน” และ วิทยาศาสตร์ ก้าวหน้า
งั้น
ผ่าตัด เอา “จิต” ของ พระเกจิ มาใส่ได้ไหม?
เปลี่ยนจิตเลยดีไหม?
เปลี่ยน “สมอง” เป็นไง?
วันนี้
เอาเรื่อง “หญ้า ที่ ปากคอก” มาให้พิจารณา
เพราะ
“เรา” มักจะลืม อะไรๆ ที่มันอยู่ใกล้เกินไป
(แปลก
!!
ม้ามันไม่กินหญ้า ที่ปากคอก ...
มันคงอยากเที่ยว เหมือน “จิต”)
จิต
มันมีลักษณะอย่างไร มันอยู่ไหนกันแน่
ถึงขนาดหลายท่านบอกว่า
“ตามดูจิต” ...
พุทโธ ...
พุทโธ ...
ยังไม่มีปัญญาบรรยาย
ลักษณะ และที่อยู่ของมันได้
จะไปรู้เรื่องอะไร
เกี่ยวกับ “จิต-เจตสิก” จริงๆ
ตอนเด็กๆ
สงสัยเหมือนกันที่ แม่มักต่อว่า ...
เรื่องแค่นี้ไม่ต้องใช้
สมอง คิดหรอก
ใช้
(ขออภัยครับ) “หัวแม่เท้าตรองดูก็ได้ ...”
คือแม่กำลังว่าเรา
โง่ น่ะ ... โง่มาตลอด ชอบโง่ !!
เออ
... ถ้าจะเป็นอย่างแม่ว่าล่ะ ดีเหมือนกันนะ
“จิตหัวแม่เท้า”
... หรือท่านว่าอย่างไร?
(เดี๋ยวโดนด่าอีก
หาว่าเอา “ของสูง” มาเล่น)
สรุป
... ตามดูจิตกันต่อไป ชำระล้างจิตกันต่อไป
รักษาจิต
ประคองจิต ไว้ให้ดี ต่อไป ...
Bravo
… ขอให้ จิต จงเจริญ ...
วันนี้
รู้สึก มึนๆ งงๆ นิดหน่อย ดีว่าสติยังพอมี ครับ
แต่ถึงอย่างไร
ก็เหมือนเดิมครับ (ไม่เคยขาด)
ขอความเจริญในพุทธธรรม จงประสบแก่ทุกท่าน
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น