วันพุธ, กรกฎาคม 16, 2557

พระสูตรว่าด้วย “อนัตตา”

ในจำนวนบทสวดทั้งหลาย
ที่ได้ทั้ง สัญญารู้ คือการจดจำได้
และได้ทั้ง รู้ในอรรถ ถ้อยคำ ความหมาย ...
จะชอบบทสวด พระอนัตตลักขณสูตร มาก
ทุกครั้งที่สวด ตั้งจิตตาม จะอิ่มเอิบใจในธรรมยิ่ง ...
















ภายหลังจาก ปฐมเทศนา ในวันอาสาฬหบูชา
จนท่าน โกณฑัญญะ ได้ดวงตาเห็นธรรม
บรรลุโสดาปัตติผล เป็นพระอริยะบุคคลแล้ว

ในวันถัดๆ มา พระพุทธองค์ทรงสอนท่านที่เหลือ
ในสังกัด ปัญจวัคคีย์ อีก ๔ รูป จาก แรม ๑ ไป...
เริ่มที่ ท่าน วัปปะ ภัททิยะ มหานามะ และ อัสสชิ
จนทุกท่านบรรลุถึง โสดาปัตติมรรค ตามลำดับวัน

ครั้นรุ่งขึ้น ... แรม ๕ ค่ำ เดือน ๘ ... (คล้ายวันนี้)
นับเป็นวันสำคัญทางพุทธศาสนา อีกวันหนึ่ง
ที่โลก ได้ปรากฎมี พระอรหันต์ ขึ้นอีก ๕ องค์
จากการเทศนา ขององค์สมเด็จพระบรมศาสดา
ด้วยบท อนตฺตลกฺขณสุตต นี้เอง

พระพุทธองค์ ทรงเริ่ม ...
ด้วยจำแนกธรรมให้เห็น ถึง อัตตา-อนัตตา
หากเป็น “อัตตา” ย่อมบังคับให้เป็นไปตามใจต้องการได้
แต่เพราะความไม่ใช่ ตัวตน ไม่ตกอยู่ใต้บัญชาผู้ใด
รูป-นามทั้งหลาย จึงต้องอาพาธ จึงไม่เป็นดังปรารถนา

จากนั้น จึงทรงใช้วิธี Dialogue ตั้งปุจฉา ...
     ตํกึ มญฺญถ ภิกฺขเว ...
ท่าน (ภิกษุ) ทั้งหลาย เข้าใจเช่นใดล่ะ?

     นามรูปํ นิจฺจํ วา อนิจฺจํ วาติ
รูป-นาม นี้ เที่ยง จีรังอยู่ หรือว่า ไม่เที่ยง ไม่จีรัง
     อนิจฺจํ ภนฺเต ... 
หาความเที่ยง จีรังมิได้ พระเจ้าข้าฯ

     ยมฺปนา นิจฺจํ ทุกฺขํ วาตํ สุขํ วาติ
เมื่อมันไม่เที่ยง จะเป็น ทุกข์ หรือ สุข ล่ะ?
     ทุกฺขํ ภนฺเต ... 
ย่อมถึงทุกข์ พระเจ้าข้าฯ

     ยมฺปนา นิจฺจํ ทุกฺขํ วิปรินาม ธมฺมํ
ก็เมื่อมันไม่เที่ยง เป็นทุกข์ แปรปรวนไป เป็นธรรมดา
     กลฺลํ นุตํ สมนุปสฺสิตุง
ควรหรือที่จะเห็นไปว่า ...
     เอตํ มม, เอโส หมสฺมิ, เอโส เม อตฺตา
นี่ของเรา, นี่เป็นเรา, นี่คือตัวตนแห่งเรา

คำตอบอันเป็นบทสรุปที่พร้อมเพรียงของท่านทั้ง ๕ คือ
     โน เหตํ ภนฺเต ...  
หาเป็นเช่นนั้นได้ไม่ พระเจ้าข้าฯ

ท้ายที่สุด สมเด็จพระสมณโคดม ท่านตรัสสรุป ...

     สพฺพํ นามรูปํ เนตํ มม เนโส หมสฺมิ น เมโส อตฺตา
นาม-รูป ทั้งหลาย หาใช่ “ของเรา” ไม่,
หาได้ “เป็นเรา” ไม่, หาได้ “มีตัวมีตน” ไม่

     เอว เมตํ ยถาภูตํ สมฺมปฺปญฺญาย ทฏฺฐพฺพํ
ข้อนี้ ท่านทั้งหลาย พึงเห็นด้วยปัญญาอันชอบตามเป็นจริง

ดำรัสต่อว่า ... นิพพิทาญาณ – ญาณรู้เบื่อรู้หน่าย
ในสังขาร คือ รูป-นาม และ ธรรมทั้งหลาย พึงบังเกิด

เมื่อเบื่อหน่าย จึงคลายกำหนัด คลายยึดติด
คลายกำหนัด คลายยึดติด จิตก็หลุดพ้น
เมื่อเกิดญาณรู้ว่า พ้นแล้ว ย่อมทราบแน่ชัดว่า ...

     ขีณา ชาติ วุสิตํ พรหฺมจริยํ กตํ กรณียํ
     นาปรํ อิตฺถตฺตายาติ ปชานาตีติ ...
ชาติสิ้นแล้ว พรหมจรรย์เราได้อยู่จบแล้ว
กิจที่ควรทำ ได้ทำเสร็จแล้ว
กิจอื่น เพื่อความเป็นเช่นนี้ มิได้มีอีก ....

เมื่อเพลิดเพลินในภาษิตของพระพุทธองค์
มีจิตโน้มไปในคำสอนของพระพุทธองค์
จิตของทั้ง ๕ ท่าน ก็พ้นแล้วจาก อาสวะ ทั้งหลาย
ปราศจากอุปาทานการยึดมั่นใดๆ  จิตถึงซึ่งวิมุตติ
หลุดพ้น หลุดพ้น หลุดพ้น ...

จึงอยากเชิญชวนท่านทั้งหลาย
ที่สนใจ “อนัตตา” ความไม่เป็นตัวไม่เป็นตน
ไม่ตกอยู่ใต้บังคับบัญชาผู้ใด
ได้ศึกษา ทำความเข้าใจ ให้ลึกซึ้ง ถ่องแท้
อันจะเป็นการก้าวย่าง ด้วยการปฏิบัติ
เพื่อไปสู่ ... “ที่สุดแห่งธรรม”  ทุกท่าน เทอญ


ขอความเจริญในพุทธธรรม จงประสบแก่ท่าน

ไม่มีความคิดเห็น: