วันอังคาร, กรกฎาคม 15, 2557

ธรรมทั้งปวง ไม่ควรยึดมั่น

สพฺเพ ธมฺมา นาลํ อภินิเวสาย
















ปัจจุบัน มีการนำพุทธภาษิตนี้ มากล่าวกันแพร่หลาย
ยิ่งช่องทางสื่อสังคม (Social Media) กว้างขวาง
การเผยแพร่ พร้อมการแสดงความเห็น ก็กระจายไปทั่ว

ประเด็นเรื่อง “การแสดงความเห็น” นี้ น่าสนใจ
ด้วยเหตุที่มักมีการกล่าว ถึงขั้น “ปริยัติ” ไป ก็ไร้ประโยชน์
ควร “ทิ้ง” ธรรมทั้งหลายที่เล่าเรียนมาออกเสีย

เรากลับเห็นตรงข้ามนะ ...
ไปศึกษาบรรดา สุปฏิปันโน สังฆสาวก ให้ถ่องแท้
ทุกรูปทุกนาม ท่านมิได้ทิ้ง และมิได้ปฏิเสธปริยัติธรรม
แม้หลายรูปหลายนาม ท่านจะมีอาจารย์ผู้สอน ต่างบุคคล
ในส่วน ปริยัติธรรม และในส่วนปฏิบัติวิปสสนาธรรม

ปริยัติธรรม คือพื้นฐานของการปฏิบัติธรรมในแต่ละขั้น
เปรียบเสมือน “แผนที่” ที่จะกำหนดการเดินทางให้คร่าวๆ
ส่วนแนวปฏิบัติ ให้ถึง “ที่สุดแห่งธรรม” ก็ย่อมอยู่ที่ปัจเจก

เป็น ปัจจัตตัง โดยแท้ ...
อีกทั้งเป็นไปด้วย กุศลวิบาก ที่ได้สั่งสม
ด้วยเหตุนี้ พระพุทธองค์จึง จำแนก บุคคลผู้รู้ได้เร็ว รู้ได้ช้า

แม้จะเป็นวิถีแบบ สุกขวิปัสสโก หรือจะเป็น เจโตวิมุตติ
ก็จะต้องไปให้ถึง “ปัญญาวิมุตติ” เพื่อเข้าสู่ที่สุดของธรรม

อย่างที่เคยว่าไว้ ... ธรรม นั้นเป็นของกลาง
สัตว์ทั้งหลายที่พึงฝึกได้ ปฏิบัติได้ รู้ได้
ล้วนมีวิธีการแห่งตน ตามกำลังวาสนาบารมีที่สร้างมา
ตามแรงกรรม-วิบาก ที่สั่งสม ... ตาม “จริต” ที่ชอบของตน

เมื่อท่านใด ปฏิบัติไป ด้วยวิธี และ วิถีใด
ใยต้องไปกำหนด ให้ผู้อื่นปฏิบัติตามแนวทางตนเท่านั้นล่ะ

เมื่ออ้างว่า นี่ (สพฺเพ ธมฺมา นาลํ อภินิเวสาย) ...
เป็นพุทธดำรัส ที่แท้จริงนะ ... แล้วจะไม่เชื่อหรือ?

เชื่อ ... แต่มีข้อปุจฉากลับไปยังท่าน ที่มักนำเอามาใช้
(ไม่แน่ใจเพื่อประโยชน์ส่วนตน หรือไม่?) ว่า ...

แล้วการสอนด้วย “อนุปุพพิกถา” ของพระพุทธองค์ล่ะ?
ทำไมพระพุทธเจ้า ต้องไล่ระดับ ของพุทธภาษิต คำสอน?
มิใช่ด้วย ความต่างของกำลังปัญญาที่จะรู้ธรรมของสัตว์หรือ?

แม้เมื่อเป็น ภิกษุ นอกเหนือจากปริยัติธรรม ที่ต้องเรียน
ยังมีข้อบังคับ กฎกติกา เพื่อความเป็นระเบียบแห่งสงฆ์
ที่ต้องประพฤติปฏิบัติ จนสิ้นชีวิตสงฆ์ “ทิ้ง” ไม่ได้

พุทธภาษิตที่ว่า สพฺเพ ธมฺมา นาลํ อภินิเวสาย นั้น
มีความหมาย มิได้ต่างไปจาก สพฺเพ ธมฺมา อนตฺตาติ
ธรรมทั้งหลาย ไม่มีตัวตน ไม่อยู่ใต้อาณัติผู้ใด

นั่นหมายถึงว่า ผู้ปฏิบัติ เมื่อได้ถึงจุด แห่งความเข้าใจ
ความเข้าถึง อนัตตาธรรม แล้ว โดยตัวของมันเอง
ย่อมละ สละเสียซึ่ง การยึดมั่น ถือมั่น ในธรรมทั้งปวงเอง

แต่ ที่น่าสังเกต การนำพุทธภาษิต นี้ มาอ้างถึงบ่อยๆ
หรือจะเป็นเพราะ ผู้ที่ตั้งตนเป็น “เกจิ” ทั้งหลายนั่นแหละ
ขาดเสียแล้วซึ่งปริยัติธรรม ขาดความรู้ ความเข้าใจ
ขาดการศึกษา (จะด้วยขี้เกียจ หรือไม่สนใจ ก็ตาม)

เพราะ ... หากเกิดมีผู้ใด ปุจฉา หัวข้อธรรม ในปริยัติ
จะไม่สามารถ วิสัชนาธรรมนั้นได้ ... จึงไปนำเอา
พุทธภาษิต (ที่มีสำหรับผู้เข้าถึงธรรมขั้นสูง) นี้ มาอ้าง

“อย่าเลย ... อย่าไปติดกับปริยัติ อะไรนั่นเลยเถิด ...
 เพราะ สพฺเพ ธมฺมา นาลํ อภินิเวสาย ... “
จบ ... เท่านี้ก็จบ และไม่อยากสนทนาธรรมต่อแล้ว

ก็พิจารณากันด้วย โยนิโสมนสิการ เอาเองเถิด


ขอความเจริญในพุทธธรรม จงบังเกิดแก่ท่านทั้งหลาย

ไม่มีความคิดเห็น: