วันเสาร์, กรกฎาคม 26, 2557

วาสนา – ธรรมวิบาก

ใครจะไปรู้ และใครจะมาฝืนได้ ... วิบากคน

หลังใช้ชีวิตทำงาน จนมีโอกาสได้บวชเมื่ออายุ ๔๐
ต้องรอ แม่ เสียชีวิต เพราะไม่ต้องลำบากใจ
ด้วยแม่ ถืออิสลาม ไม่อยากให้ ไม่สบายใจ

ยังจำได้ ตอนที่แม่ขอ ให้ไปทำ circumcision
“โอ... โตแล้วนะแม่ ทำตอนนี้ล่ะเจ็บตายชักเลย”
แต่ก็ทำ ... เพื่อให้ท่านสบายใจ ดีใจ และ สุขใจ

จนมาถึงช่วง เดือนกันยายน ๒๕๓๙
ที่ได้บรรพชา เป็นภิกษุในพระพุทธศาสนา
ออกหาวัดเอง มีเพื่อนรัก จากสุพรรณ มาช่วย
ได้วัดชื่อ “สามประชุมราษฏร์”   ต. บางระกำ
อ. โพธิ์ทอง  จ. อ่างทอง ...

วันที่ไปขอบวช ไม่ลืมเลย พบพระชราท่านหนึ่ง
เก็บกวาดสนาม เข้าไปสนทนาขอบรรพชา
ท่านบอกให้ไปรอ บนกุฎี ชี้มือบอกทาง
ปรากฎว่า ท่านนั้นแหละ เจ้าอาวาส

เพิ่งรู้ครั้งแรกในชีวิต ว่าบวช ต้องมีพระอุปัชฌาย์
ก็ท่านอีกนั่นแหละ ...

สมัยนั้น พระอุปัชฌาย์ ทั้งจังหวัดอ่างทอง
มีเพียงสอง คือท่านนี้ และ เจ้าคณะจังหวัด
ซึ่งหลวงพ่อท่านนี้ มีอาวุโส มากกว่าด้วย
นามท่าน .. หลวงพ่อสวัสดิ์ ฉายา .. กนฺตสีโล

ไปพบท่าน ๓ วันอาทิตย์ ติดต่อกัน ...
ในที่สุดท่านก็ถาม ... “เอาแน่นะ” ... “ครับ”
“งั้น บวชบ่ายนะ ไม่ต้องเลี้ยง โกนหัวเข้าวัด”
“ได้ครับ” ...











ที่สุด ก็ได้ฉายา “ญาณสงฺวโร” ที่ท่านตั้งให้
กระดาษที่เขียนด้วยลายมือ เลขาฯ ท่าน
ติดตัวผมมาตลอดเวลาจนบัดนี้  ตั้งใจจะสั่งเสีย
ให้ลูกเอาใส่กระเป๋าเสื้อตอนเป็นศพ พร้อมเผา
(เผื่อภพชาติหน้า ได้บวชในพระพุทธศาสนา)

เรียน วัตรปฏิบัติ จากหลวงพ่อ ...
แต่เรื่อง “ธรรม” เป็นวาสนา เป็นกุศลวิบากแท้
ได้มาพบ “ครูสุข”
(จนบัดนี้ ผมยังไม่ทราบนามสกุล ท่านเลย
อกตัญญูไหมล่ะ?)















ท่านนี้แหละครับ ที่ทำให้ผม “เรียนรู้ธรรม”
และขอให้ผมเรียน ปรมัตถ์ธรรม ในพระอภิธรรม
ผมก็เอาแค่ทางลัด คือ พระอภิธัมมัตถสังคหะ
พระอภิธรรมใหญ่ ไม่มีปัญญารู้เรื่องหรอกครับ

แค่เดือนเดียว ... แต่ผูกพันเหมือนคบกันมาเป็นชาติ

“...อันนี้ เรื่อง มรณาสันนวิถี น่ะ เรียนรู้ไว้
เป็นการฝึก มรณานุสสติได้ดี ... จำไว้นะ เมื่อจะถึง
จุติจิต จิตสุดท้ายแล้ว มันจะ เป็น เรื่อง นอกวิถี นะ
กรรมารมณ์ กรรมนิมิตารมณ์ คตินิมิตารมณ์
๑ ใน ๓ อย่างนี้ มาแน่ ... หากไม่เตรียม มันหลง ...”
แม้จะจดจำถ้อยคำไม่ได้ทั้งหมด แต่ก็ประมาณนี้

นับจากสึกหาลาเพศ ก็ไปเยี่ยมเยียนท่านทุกเดือน
มอบปัจจัย เพื่อการดำรงชีวิต คู่กับคุณยาย
พร้อมสนทนา และรับคำสอนเรื่อง ธรรม ทุกครั้ง












ในภาพที่เห็น ภาพแรก เยี่ยมท่านเมื่อ ๑๖ มค. ๒๕๕๒
หลังวันคล้ายวันเกิดท่าน ๑ วัน
ภาพที่สอง เมื่อ ๑๗ มค. ๒๕๕๓ ปีถัดมา
ซึ่งขณะนั้นท่าน มีอายุได้ ๙๕-๙๖ ปีแล้ว

ยังไม่ลืมคำสอน ช่วงท้ายๆ ชีวิตท่าน ที่บอก
พร้อมกับมอบสายประคำ (สูญไปกับน้ำท่วมแล้ว)
ท่านว่า “... ปริยัติ ต้อง ปฏิบัติ นะ  สำคัญมากๆ
ผมเห็นว่าคุณมีวาสนา ในเรื่องนี้นะ ทำมาก ทำน้อย
ขออย่าได้หยุด ...”   ทุกวันนี้ ผมไม่เคยลืม

วันนี้ คิดถึงท่านเป็นพิเศษ แม้ทุกวันก็รำลึกถึงทุกครั้ง
เมื่อทำวัตรตอนเย็น ในบทสวด แผ่เมตตา
ให้ทั้งพระอุปัชฌาย์ และ ท่านครูสุข

 “... อิมินา ปุญญะกัมเมนะ
 อุปัชฌายา คุณุตตะรา
 อาจาริยูปะการา จ ...”

กุศลวิบาก นำกระผม ให้มาพบครูครับ
เป็น กุศลกรรม ที่ผมได้ทำดีไว้ แท้ๆ

วันนี้ ขออนุญาต คิดถึง “ครู” ผู้มีพระคุณยิ่ง ครับ

ไม่มีความคิดเห็น: