มีคำถามว่า จะศึกษาธรรมะ เริ่มอย่างไร
อันที่จริง แรกคลอด หากบิดามารดาไม่นับถือศาสนาอื่นใด
ก็มักบันทึกว่านับถือศาสนา "พุทธ" เกือบทั้งสิ้น
แต่นั่นก็เป็นเพียงพุทธในนาม ในทางนิตินัย
แต่โดยพฤตินัย มีการนับถือกันจริงหรือไม่ ?
หากนับย้อนไปช่วงพุทธกาล ...
เมื่อพระพุทธองค์ จะกล่าวคำสอน เพื่อให้เข้าถึงหลักธรรม
ท่านก็พิจารณาระดับความรู้ ความเข้าใจเสียก่อน
การสอนเพื่อศึกษา และปฏิบัติของท่าน จึงเป็นขั้นตอน
แนวทางการสอนแบบค่อยเป็นค่อยไป
๖ ขั้น ของพระพุทธองค์
๑. ทาน – การให้
(เพื่อละความโลภ)
๒. ศีล –
การสำรวมกาย และวาจา ไม่ทำ ไม่พูดในทางชั่ว
๓. สัคค – สวรรค์
ผลที่ได้จากการปฏิบัติดี
๔. โทษของกาม
(อาทีนว) - เวียนเกิดเวียนตาย
๕. การคิดออกจากกาม
(เนกขัมมะ) - สละ ละทิ้งทางโลก
๖. อริยสัจจ์ ๔
(จัตตาริ อริยสัจจานิ) ซึ่งว่าด้วย
ทุกข์
เหตุห่งทุกข์
ความดับทุกข์
หนทางที่ให้ถึงซึ่งความดับทุกข์
ปุถุชน ยังมีความหนาอยู่ด้วย กิเลส (ปุถุ - หนา)
พระพุทธองค์ ท่านก็ให้เริ่มเข้าใจหลักในเบื้องต้น
คือให้รู้จักแบ่งปัน คือทาน เพื่อละความตระหนี่ ความโลภ
แล้วจึงใช้ศีล คือข้อควรเว้นที่จะปฏิบัติในทางชั่ว
เพื่อให้สำรวมระวัง ความคิด การกระทำ และการพูดจา
ผลที่ได้จากการ "ทำดี" ทั้งหลาย ย่อมนำมาซึ่งภพภูมิที่ดี
คือ สวรรค์ เป็นดั่ง "กุศลวิบาก" แห่งการทำดี
กระนั้นก็ตาม สัตว์ทั้งหลายก็ยังข้องแวะอยู่ในภพ
คือการเกิด ซึ่งย่อมนำมาซึ่งความตาย ในที่สุด
เวียนวนอยู่เช่นนี้ จับต้นไม่ได้ ชนปลายไม่ถูก
เรียกว่า เวียนวนอยู่ใน "สังสารวัฏฏะ"
นี่คือที่พระพุทธองค์สอนในเรื่อง กามทีนว
(อาทีนว - โทษ) คือโทษของกาม ที่ต้องเวียนอยู่เช่นนี้
พระพุทธเจ้าท่านจึงสอนให้รู้จักการออกไปเสียจาก "กาม"
ด้วยการสอนให้ปฏิบัติด้วย เนกขัมมะ
ซึ่งก็คือ "สัมมาสังกัปปะ" คือความดำริชอบ นั่นเอง
ดำริ ที่จะออกจากกาม ที่จะไม่พยาบาท และไม่เบียดเบียน
เมื่อความคิดของผู้เรียน "สุกงอม" ด้วยรสแห่งธรรมเบื้องต้นแล้ว
พระพุทธองค์ จึงเข้าประเด็นสำคัญ ในข้อ ๖ คือ “อริยสัจจ์" ทั้ง ๔
โดยมี “หลักปฏิบัติ” ที่แท้จริง คือ ทุกขนิโรธคามินีปฏิปทา ๘
เมื่อศึกษาลงรายละเอียดใน "สัมมา" แต่ละข้อแล้ว ต้องปฏิบัติ
ส่วนจะ ทำได้-ไม่ได้ ได้มาก-ได้น้อย ค่อยๆ ทำไป
ทำด้วยความพอใจ
(ฉันทะ) ทำด้วยความตั้งใจ (วิริยะ)
ทำด้วยความสนใจ
(จิตตะ) ทำด้วยความเข้าใจ (วิมังสา)
เมื่อทำอะไรด้วย
อิทธิบาท ๔ แท้ๆ แล้ว มีหรือจะไม่สำเร็จ
ช้า-เร็ว
ก็ต้องสำเร็จ
ปัญหาก็คือ
อยากสำเร็จจริงหรือเปล่า ?
หลุดพ้นจริงแล้ว
ไม่กลับมาแล้วนะ !!!
อยากออกจากกามภพ
รูปภพ อรูปภพ จริงหรือเปล่า ?
ยังมี
กามตัณหา ภวตัณหา วิภวตัณหา อยู่ไหม?
ถ้าแน่ใจ จะไป
“ให้ถึง”
ต้องปฏิบัติตาม
“หนทางที่ให้ถึงซึ่งความดับแห่งทุกข์”
(ทุกฺขนิโรธคามินีปฏิปทา)
๘ ประการนี้
๑. มีความเห็น
ที่ชอบที่ถูก
๒. มีควาดำริ
ตัดสินใจ ที่ชอบที่ถูก
๓. มีการสำรวมวาจา เว้นการกล่าวชั่ว ๔
๔. มีการสำรวมกาย ไม่ประพฤติชั่ว ๓
๕. เลี้ยงชีพด้วยสุจริต มิใช่ด้วยทุจริต
๖. มีความพยายามที่ชอบ ๔
๗. ฝึกด้วยสติปัฏฐาน ๔
๘. ตั้งใจทำสมาธิให้ได้ตั้งแต่ ฌานที่ ๑ ถึง ๔
แล้วค่อยมาว่าต่อกันที่ละเรื่อง
ทีละ “สัมมา”
เพียงอยากให้ทราบว่า
นี่คือ “เอกายนมรรค”
คือ "หนทางเดียว" ไม่มี หนทางอื่น
ส่วนจะโอ้เอ้
ชักช้า จะอ้อมไปมา หรือจะตัดตรง
จะเดินบ้าง
วิ่งบ้าง หรือหยุดบ้าง เชิญตามอัธยาศรัย
เพราะ ... นั่นเป็นส่วนที่เลือกเอาเองได้
แต่หากขาด-เกิน
ในแนวทางปฏิบัติทั้ง ๘ นี้ไป
เกรงว่า
นั่นจะไม่ใช่ “ทาง” ที่หมายถึงแล้วล่ะครับ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น