(พึงอ่านช้าๆ
พึงพิจารณาให้ชัดๆ)
มรณํ
ภวิสฺสติ ชีวิตินฺทฺรริยํ อุปจฺฉิสฺสติ
ความตายจักมี ชีวิตินทรีย์จักขาด
เมื่อพิจารณาได้ดีแล้ว
...
ระลึกถึงความตายแห่งบุคคลอันเป็นที่รัก
ก็จะมิได้เศร้า
มิได้โศก
ระลึกถึงความตายแห่งบุคคลอันเป็นเวร
ก็มิได้ชื่นชมโสมนัส
ระลึกถึงความตายแห่งบุคคลที่ไม่รักไม่ชัง
ก็จะมิได้เพิกเฉย
จะบังเกิดความสังเวช
ระลึกถึงความตายแห่งตน
ก็ปราศจากความสะดุ้ง
หวาดกลัว
นี่คือคุณแห่งการพิจารณา
พิจารณาต่อความตายด้วย
๘ ประการ
๑. เกิดกับตายนั้นมาพร้อมกัน
๒. เมื่อวิบัติ
(ตาย) ครอบงำ สมบัติก็สูญสิ้น
๓. ความตายของสัตว์อื่น
ก็ย่อมเกิดแก่ตน
๔. กายที่ตายเป็นสาธารณะแก่หมู่หนอน
๕. อายุแห่งสัตว์นี้
หากำลังมิได้
๖. อนิมิต
๕ ประการ ที่สัตว์ไม่ล่วงรู้
ชีวิต–ป่วยไข้–เวลาตาย–สถานที่ตาย–คติที่จะไป
๗. ชีวิตแห่งสัตว์นี้
น้อยนัก
๘. ชีวิตขณะแห่งสัตว์
เพียง “ขณะจิต” หนึ่ง
ชื่อว่า
โลกสันนิวาส ... สัตว์ทั้งปวงนี้
ชาติทุกข์
ย่อมติดตามล่อลวงให้ลุ่มหลง
ชรา
รัดตรึงให้ถึงความวิปริต
พยาธิทุกข์
ตามย่ำยีให้ป่วยไข้ เจ็บกาย
มรณทุกข์
ครอบงำทำลายล้าง ชีวิตินทรีย์
พญามัจจุราชนี้
จะเว้นบุคคลผู้หนึ่งผู้ใด หามิได้
ย่อมครอบงำย่ำยีสรรพสัตว์ทุกรูปนาม
มิได้เลือกกษัตริย์
พราหมณ์ พ่อค้า ชาวนา และจัณฑาล
ผู้เห็นภัยในวัฏฏสังสาร
เมื่อเพียรพยายามเจริญ
มรณานุสสติภาวนานี้
ย่อมละเสียซึ่งความประมาททั้งปวง
คัดจาก
พระวิสุทธิมรรค
พระธรรมโฆษาจารย์
เรวตฺตมหาเถร
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น