สวดวัตรเช้าวันนี้
ก็เหมือนเช่นเคยกับทุกวันที่มีมา
แต่วันนี้
มาสะดุด ตรงวลีที่ว่า
“ยมฺปิจฉํ
นลภติ ตมฺปิ ทุกขํ”
คือ
คิดสิ่งใดไม่ได้ดังหวัง นั่นก็ทุกข์
แล้วพระท่านจึงสรุปลงว่า
...
“สงฺขิเตน
ปญฺจุปาทานกฺขนฺธา ทุกฺขา”
สรุปรวมความแล้ว
การเข้าไปยึดมั่นในขันธ์ทั้ง
๕ นั่นแหละทุกข์
“รูป”
ทั้งหลายที่ผ่านมายังปสาททั้งหลาย และจิต
“เวทนา”
ที่จิตเข้าไปเสวยอารมณ์ต่อรูปนั้น
“สัญญา”
ที่จิตจดจำ รูปทั้งหลายนั้น
“สังขาร”
ที่จิต ยอมให้เจตสิกทั้งหลายปรุงแต่ง
“วิญญาณ”
แม้ตัวจิตเองก็เถิด
ทั้งสิ้น
ทั้งปวง ล้วนเป็นต้น เป็นเหตุแห่งทุกข์
ขันธ์ทั้ง
๕ นี้เป็น ๑ ใน วิปัสสนาภูมิ ๖
จึงควรหน่วงเอาธรรมนี้มา เป็นอารมณ์
พิจารณา ให้รู้จักลักษณะแห่งธรรม
ให้เห็นว่า มันไม่เที่ยง
มันแปรเปลี่ยน
และมันไม่ตกอยู่ใต้บังคับบัญชาใดๆ
สติ ความยั้งด้วยการตรึก
คิด
แม้จะมาหลัง กรรม
ที่ได้ทำไปแล้วก็ตาม
พยายามต่อไป พยายามต่อไป
ต่อไป
มั่นใจว่า
วันหนึ่งมันจะมาทัน กรรมที่ทำ
และวันหนึ่ง มันจะล้ำหน้าไป
ก่อนตัดสินใจ กระทำกรรม
ยังคงดำเนินต่อไป
บนเส้นทางที่เลือกแล้ว
ด้วย
มัคคามัคคญาณทัสสนวิสุทธิ์
ขอความเจริญในพุทธธรรม
จงประสบแด่ท่าน
ขอขอบคุณ
google
เรื่องภาพ
‘perception
of senses’
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น