วันอังคาร, กรกฎาคม 08, 2557

อยู่ในปัจจุบัน

มีพระพุทธพจน์หนึ่ง ว่า ...
อตีตํ นานวคเมยฺย
นปฺปฏิกงฺเข อนาคตํ
(จาก ภัทเทกะรัตตะคาถา...
 คาถาสำหรับผู้มีราตรีเดียว)














อย่าไปอาลัยอาวรณ์กับอดีตที่ผ่านพ้นไปแล้ว
และไม่ต้องไปเป็นห่วงกังวลอนาคตที่ยังมาไม่ถึง

เมื่อได้พิจารณาธรรมหัวข้อนี้แล้ว
โดยส่วนตัว (ส่วนตัวนะครับ) เห็นว่า ...

พระพุทธองค์ท่านคงมิได้หมายความรวมเอาว่า ...
อย่าไปคิดเลย ทั้งเรื่องอดีต และเรื่องของอนาคต

กระผมขอบังอาจเชื่อว่า ... พระพุทธองค์ท่าน
คงหมายเฉพาะเอา “การณ์” หรือ “เรื่องราว”
ทั้งที่ผ่านไปแล้ว และที่ยังมาไม่ถึง มาคิด
เพราะอย่างไรเสีย ที่ผ่านไปก็แก้ไขไม่ได้
และที่จะมีมาข้างหน้า ก็ไม่รู้ว่าจะมีมาแบบใด

แต่ท่านคงให้พิจารณา “การณ์ในอดีต”
ว่าต้องสมควรนำมาใช้เป็นบทเรียน ...
ส่วน “การณ์ที่จะเกิด” เป็นเรื่องที่ต้องเตรียมตัว

กล่าวง่ายๆ ว่า ... ใช้อดีตเป็นบทเรียนปัจจุบัน
เตรียมการสำคัญ ให้พร้อมกับอนาคต

เช่นนี้ จึงนับได้ว่า อยู่อย่าง “ไม่ประมาท”

ไม่มากก็น้อย ผู้คนทั้งหลายย่อมประสบ
เหตุการณ์ที่ขมขื่นในอดีต ที่มิอาจลืมเลือน
ทั้งยังตั้งความคาดหวังในอนาคตที่อยากให้เกิดมี

จึงมิใช่เรื่องผิด ที่จะทบทวนบทเรียนจากอดีต
และมิใช่เรื่องผิด ที่จะเตรียมการเพื่ออนาคต
เพียงแต่ ไม่หมกมุ่น คิดจะกลับไปแก้ไข แก้คืน
และไม่เพ้อฝัน กับสิ่งที่เกินคาดการณ์ล่วงหน้า

พระพุทธพจน์ นี้
นับว่าเป็น “อกาลิโก” คือไม่จำกัดด้วยกาลจริงๆ

พระพุทธองค์ท่านจึงว่า ...
“ตถตา” มันเป็นเช่นนั้น
“อวิตถตา” ไม่ผิดไปจากเช่นนั้น
“อนัญถตา” มิอาจเป็นอื่นไปได้
เมื่อบุคคลได้ศึกษา จึงเปรียบได้พบขุมทรัพย์ที่แท้

ขอทุกท่านจงได้พบขุมทรัพย์แห่งปัญญา

แห่งพระพุทธธรรม โดยทั่วกันเทอญ ....

ไม่มีความคิดเห็น: